ประเทศอาเซียน

ประเทศอาเซียน
สนใจโปรแกรมเที่ยวอินโดจีน ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม

ประเทศอาเซียน

ประเทศอาเซียน
สนใจโปรแกรมเที่ยวอินโดจีน กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ท่องเที่ยวลาวเหนือ

เวียงจันทน์





นครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงข้ามกับอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคายของประเทศไทย เมืองหลวงรูปพระจันทร์เสี้ยวของลาวแห่งนี้ ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศเงียบสงบ ชาวเมืองทั่วไปดำเนินชีวิตประจำวันอย่างเรียบง่าย แตกต่างจากเมืองหลวงอื่นๆของเอเชียในหลายประเทศ

ปัจจุบันการเดินทางมาท่องเที่ยวเวียงจันทน์นั้นแสนสะดวก เพียงข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จากชายแดนหนองคายข้ามลำน้ำโขงไป 1,240 เมตร เดินทางต่ออีกประมาณ 20 กิโลเมตรก็ถึงนครเวียงจันทน์แล้ว หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกใช้บริการรถสามล้อเที่ยวรอบตัวเมืองได้ตามสะดวก สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะต่างจากบ้านเราคือปิดเวลาเที่ยง แล้วเปิดให้เข้าชมอีกทีตอนบ่ายโมง สำหร้บผู้มีเวลาน้อยสามารถเลือกเดินทางแบบ 1 วันก็ได้ แต่หากมีเวลาสักหน่อยควรจะมีเวลาเดินทางสัก 2 วัน 1 คืน จะได้ไม่เร่งรีบจนเกินไป

เมื่อมาเยือนนครเวียงจันทน์แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่ไม่ควรพลาดคือ พระธาตุหลวง ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำชาติลาวมีความหมายต่อจิตใจชาวลาวอย่างใหญ่หลวง ถัดมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบนถนนล้านช้างเป็นที่ตั้งของประตูชัยหรือรันเวย์แนวตั้ง ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสและความงามของพุทธศิลปลาวได้อย่างลงตัว

ส่วนวัดต่างๆในตัวเมืองก็น่าสนใจเช่นกัน ตั้งแต่ วัดศรีเมือง สถานที่ตั้งของเสาหลักเมือง ที่ชาวลาวเดินทางไปสักการะบูชาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน วัดสีสะเกด วัดเก่าแก่ที่สุดในนครเวียงจันทน์ หลังจากนั้นข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามจะถึงหอพระแก้วอดีตที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตที่อันเชิญมาจากล้านนา ปิดท้ายด้วยการแวะชมวัดเชียงคาน สวนพระพุทธรูปอันแปลกตาก่อนกลับแวะรับประทานอาหารริมน้ำโขง สั่งปลาเผาสดๆก็น่าสนใจทีเดียว


 แหล่งท่องเที่ยว


พระธาตุหลวง
พระธาตุหลวง

หากมาเยือนนครเวียงจันทน์แล้วสถานที่แห่งแรกที่คุณไม่ควรพลาดชมคือ พระธาตุหลวง ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและศาสนาสถานที่สำคัญที่สุดของลาว มีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวง แทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาว

ประตูชัย
ประตูชัย

จากถนนล้านช้างมุ่งหน้ามาทางวงเวียนใหญ่คุณจะเห็นประตูชัยตั้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงกึ่งกลาง ประตูชัยสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฎิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ 

วัดศรีเมือง


วัดศรีเมืองเป็นวัดแห่งหนึ่งในนครเวียงจันทน์ที่มีประชาชนลาวเดินทางไปสักการะบูชากันเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ภายในวัดเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองประจำนครเวียงจันทน์หลังจากที่เหล่าเสนาอำมาตย์ของพระไชยเชษฐาธิราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมืองขึ้นในปี พ.ศ. 2106
วัดสีสะเกด

วัดสีสะเกด
หากคุณมาเยือนนครเวียงจันทน์แล้ววัดเก่าแก่ที่ไม่ควรพลาดชมแม้มีเวลาน้อยคือ วัดสีสะเกด เมื่อแรกสร้างมีชื่อว่า วัดสตสหัสสาราม ซึ่งหมายความว่า วัดแสน แต่เหตุที่ประชาชนเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดสีสะเกด ( ศรีษะเกศ ) เนื่องจากวัดแห่งนี้หันหน้ามาทางพระราชวังหรือทิศหัวนอนของเจ้าอนุวงศ์เพื่อที่เมื่อเจ้าอนุวงศ์ตื่นบรรทมหรือเข้าบรรทมก็สามารถไหว้พระในวัดสีสะเกดได้ทั้งตอนเช้าและค่ำ

หอพระแก้ว

หอพระแก้ว

หอพระแก้วที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมดในปี พ.ศ. 2480-2483 ภายใต้การควบคุมดูแลก่อสร้างของเจ้าสุวรรณภูมาผู้ที่จบการศึกษามทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ทำเนียบประธานประเทศ ( หอคำ )
ตั้งอยู่บนถนนเชษฐาธิราช ทางทิศตะวันออกอยู่ติดกับหอพระแก้วแต่เดิมนั้นสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นจวนข้าหลวงฝรั่งเศสสำหรับปกครองอาณานิคมลาวที่ยึดมาได้ปี พ.ศ. 2436 หลังจากที่ได้รับเอกราช

อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ท่านไกรสร พรหมวิหาร
จุดเด่นน่าชมอยู่ในช่วงการเที่ยวชมบ้านพักส่วนตัวหลังเล็กๆของท่านไกรสร ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่ตึกภายในเขตพิพิธภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายย่านชานเมืองในอเมริกาหลังสงคราม

พิพิธภัณฑ์กองทัพ
พิพิธภัณฑ์กองทัพเดิมเป็นจวนข้าหลวงฝรั่งเศส ต่อมาทางรัฐบาลลาวได้ใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานฝ่ายบริหาร ก่อนถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ. 2428 

พระธาตุดำ

พระธาตุดำ

ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโรงแรมเอเชียนพาวิลเลียนโฮเต็ลพระธาตุดำมีอายุย้อนไปสมัยอาณาจักรล้านช้างตอนต้น มีตำนานพื้นบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่า ภายใต้องค์พระธาตุดำเป็นปากทางออกจากนครบาดาลของเหล่าพญานาคเจ็ดเศียรที่มาช่วยเหลือชาวลาวในนครเวียงจันทน์เอาไว้จากการรุกรานของกองทัพสยาม

ถนนเจ้าฟ้างุ้ม
ถนนสายนี้ตั้งชื่อตามพระนามของเจ้าฟ้างุ้ม ผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้านช้าง ถนนตัดเลียบไปตามริมฝั่งแม่น้ำโขงบทนำนบกั้นน้ำถูกสร้างขึ้นแทนแนวกำแพงเมืองเก่าที่เคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึกศัตรูและกระแสน้ำจากแม่น้ำโขง

ถนนเชษฐาธิราช
ถนนสายนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์ผู้ทรงย้ายเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้าง นับเป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่งในนครเวียงจันทน์ ตลอดสองข้างทางมีโรงแรมระดับหรูและร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยว

ถนนสามเสนไท
ถนนสายสำคัญสายหนึ่งของเวียงจันทน์ คือ ถนนสามเสนไท ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญตั้งอยู่ตอนบนของวงเวียนน้ำพุิตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของโรงแรมลาวพลาซ่า โรงแรมชื่อดังในนครเวียงจันทน์

วัดองค์ตื้อ
จุดเด่นน่าชมของวัดนี้อยู่ที่ พระเจ้าองค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่รุ่นแรกๆของนครเวียงจันทน์ สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเสด็จกลับจากเชียงใหม่เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ชาวลาว

วัดเชียงคาน
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห่างจากนครเวียงจันทน์ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร บนถนนท่าเดื่อและอยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

ศูนย์วัฒนธรรมชมกลุ่มน้อย
บริหารงานโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศลาว ภายในจำลองบ้านเรือนของพวกลาวลุ่ม ลาวเทิง และลาวสูงต่างๆ

เขื่อนน้ำงึม
มีลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ คอยกักเก็บน้ำในลำน้ำงึมเอาไว้ เขื่อนแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณที่มากพอสำหรับใช้ในนครเวียงจันทน์

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว


เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งนี้รวมกับ นายหนูฮัก พุมสะหวันอดีตท่านประธานประเทศลาว โดยเชื่อมจังหวัดหนองคายเข้ากับนครเวียงจันทน์





วังเวียง


วังเวียงเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ของประเทศลาว ตั้งอยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์มาทางทิศเหนือราว 160 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ในอดีตเมืองวังเวียงเป็นเพียงทางผ่านในความรู้สึกของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเยือนเมืองมรดกโลกที่หลวงพระบาง แต่ปัจจุบันเมืองที่โอบล้อมด้วยขุนเขาแห่งนี้กำลังเปลี่ยนจากทางผ่านเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใครๆอยากมาสัมผัส จากเวียงจันทน์คุณสามารถเหมารถตู้มาวังเวียงได้เลย หรือจะไปที่ตลาดเวียงจันทน์เพื่อใช้บริการรถโดยสารประจำทางก็ได้

สาเหตุที่วังเวียงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวคือ ภูมิศาสตร์ ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับ กุ้ยหลิน ประเทศจีน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะพบคลื่นทะเลภูเขาสีเขียว ท่ามกลางไอหมอกสีขาวนวลลอยพาดผ่านไปตามซอกเขา มีสายน้ำซอง สายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองวังเวียงมาตั้งแต่อดีตกาล นอกจากจะเปรียบเสมือนเมืองกุ้ยหลินที่ประเทศจีนแล้ว บรรยากาศของเมืองนี้ยังคล้ายกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จนมีใครหลายคนขนานนามว่าเป็นเมืองคู่แฝด

วังเวียงเมืองเล็กในหุบเขาแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ ตั้งแต่ ล่องห่วงยาง พายคายักบนสายน้ำซองระหว่างทางยังได้สนุกสนานกับชิงช้าลอยฟ้าบริเวณถ้ำนอนอีกด้วย นับเป็นกิจกรรมสบายๆ สามารถเลือกเที่ยวได้แบบครึ่งวันและเต็มวัน สำหรับคนที่ชื่นชอบการผจญภัย วังเวียงยังมีถ้ำสวยงามให้เลือกชม อาทิ ถ้ำจัง ถ้ำน้ำ ถ้ำช้าง และเมืองลับแล ดินแดนว่างเปล่าในหุบเขาที่เคยเป็นหมู่บ้านของชาวม้ง มีสายน้ำซางหรือวารีบำบัดไหลผ่าน วังเวียงจึงเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวสไตล์แบ็กแพ็กเกอร์เสมอมา

 แหล่งท่องเที่ยว

ล่องแม่น้ำซอง


กิจกรรมยอดนิยมที่คุณเองไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนวังเวียงคือการพายคายักชมความสวยงามของสายน้ำซอง จุดเริ่มต้นอยู่บริเวณผาตั้ง ล่องเรือผ่านเวียงสมัยไปจนถึงเมืองวังเวียงมาขึ้นที่บริเวณถาวรสุข บังกะโล

ล่องห่วงยาง
จุดเด่น หลังจากที่สนุกสนานกับการพายเรือคายักล่องแม่น้ำซองแล้วอีกกิจกรรมที่คุณเองไม่ควรพลาดคือกิจกรรมล่องห่วงยาง เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบกันมากเพราะมีเพียงห่วงยางอันเดียวก็ไปสนุกกับสายน้ำซองได้แล้ว

ล่องเรือชมธรรมชาติบนเขื่อนน้ำงึม
บ้านท่าเรือบริเวณตลาดท่าเรือ ห่างจากวังเวียงประมาณ 30 กิโลเมตร จุดเด่น นอกจากกิจกรรมล่องแม่น้ำซองบริเวณเมืองวังเวียงแล้ว ก่อนถึงตัวเมืองวังเวียงยังสามารถแวะเที่ยวตลาดท่าเรือ เพื่อล่องเรือหางยาวไปเที่ยวชมธรรมชาติบนเขื่อนน้ำงึมได้

ถ้ำจัง

มาเที่ยววังเวียงนอกจากจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำหลากสไตล์แล้ว วังเวียงเองก็มีถ้ำหลายแห่งที่ไม่ควรพลาดชมเช่นกัน เริ่มต้นที่ถ้ำจัง ในอดีตเป็นถ้ำที่ไม่มีไฟฟ้าเพราะชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์หากใครไปทำสิ่งไม่ดีงามภายในถ้าจะเกิดอาการจังงัง มือเท้าหงิกงอเหมือนเป็นง่อย แต่ภาษาลาว เรียกว่าอาการจัง ชาวบ้านจึงเรียกถ้ำนี้ว่าถ้ำจัง

ถ้ำช้าง
จุดเด่น หากคุณต้องการเดินทางมายังถ้ำช้างสามารถหารถ 3 ล้อ จากในตัวเมืองวังเวียง ราคาต่อรองกันได้ แต่ถ้ารู้ที่ตั้งและมีแผนที่จะเลือกขี่จักรยานก็สะดวกเช่นกัน 

ถ้ำหอย
จุดเด่น หลังจากชมถ้ำช้างแล้วคุณยังสามารถเดินทางไปชมถ้ำใกล้เคียงได้อีก 3 ถ้ำ ตั้งแต่ ถ้ำหอย ถ้ำหลุบ และถ้ำน้ำ จากถ้ำช้างต้องเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้านเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร  จากนั้นจะพบด่านเก็บเงินเสียค่าเข้าชมคนล่ะ 5,000 กีบ แต่สามารถชมได้ถึง 3 ถ้ำ

ผาตั้ง
จุดเด่น ผาตั้งเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของกิจกรรมพายคายักสายน้ำซองทุกๆ เช้าบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางผาตั้งมีลักษณะเป็นภูเขาโดดเดี่ยวท่ามกลางทุ่งนาสีเขียว

ถ้ำปูคำ
จุดเด่นถ้ำปูคำเป็นอีกถ้ำหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้าไปชมกัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่เมืองวังเวียงคุณต้องนั่งเรือหางยาวข้ามฟาก บริเวณถารสุข บังกะโล จากนั้นต้องต่อรถไถนาเข้าไป ราคาค่าโดยสารต้องต่อรองกับคนขับรถส่วนใหญ่จะรวมราคาไปและกลับเอาไว้แล้ว

ถ้ำน้ำ
จุดเด่น จากบริเวณถ้ำช้างมี 2 เส้นทางให้คุณเลือก หากอยากชมถ้ำหอยและถ้ำหลุบให้ไปทางด้านขวามือจากถ้ำช้าง แต่หากจะลัดไปถ้ำน้ำเลย สามารถใช้เส้นทางซ้ายมือผ่านหมู่บ้านถ้ำช้างมีป้ายบอกตลอดทาง

ถ้ำนอน
จุดเด่นถ้ำนอนตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถ้ำนอนรีสอร์ท ห่างจากตลาดใหม่วังเวียงประมาณ 100 เมตร จะพบป้ายบอกทาง เดินเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร คุณสามารถเลือกใช้บริการจากท่าเรือบริเวณถ้ำนอนรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำซอง

ผจญภัยแบบปีนป่าย
จุดเด่น โปรแกรมการเดินป่าขึ้นเขาไปยังเมืองลับแลนับเป็นกิจกรรมแบบ one day tour ที่นักผจญภัยหลายคนชื่นชอบเมื่อได้มาเยือนวังเวียง เมืองลับแล ในอดีตเคยเป็นถิ่นฐานของชาวม้งมาช้านาน





 เชียงขวาง

เชียงขวางเป็นแขวงหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศลาว ตั้งอยู่ติดกับชายแดนเวียดนาม นักท่องเที่ยวจากหลวงพระบางสามารถเดินทางมาเชียงขวางด้วยรถประจำทางผ่านถนนลาดยางประมาณ 7 ชั่วโมง หรือจะเลือกใช้บริการรถประจำทางสายเวียงจันทน์ วังเวียง เชียงขวาง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสะดวกสบายสามารถนั่งเครื่องบินจากสนามบินวัดไตนครเวียงจันทน์ก็ได้เช่นกัน

เชียงขวาง อดีตสมรภูมิรบอันดุเดือดสมัยสงครามเวียดนาม จุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพอเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-52 เข้าทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายขบวนการประทศลาว ทำให้วัดวาอารามและหมู่บ้านน้อยใหญ่ในแขวงเชียงขวางพังทลายลง เห็นได้จากซากของลูกระเบิดตามหมู่บ้านต่างๆแต่ในปัจจุบันแขวงเชียงขวางได้กลับกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ด้วยสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี เสมือนเครื่องปรับอากาศธรรมชาติที่วิเศษสุด ตลอดจนวิวทิวทัศน์สองข้างทางอันสวยงาม

สถานที่ท่องเที่ยวในแขวงเชียงขวางมีมากมายหลายแห่ง แต่โปรแกรมท่องเที่ยวสำคัญที่คุณเองไม่ควรพลาดคือการไปชมทุ่งไหหินดินแดนอันเป็นปริศนาที่รอคอยการพิสูจน์ เมืองคูณเมืองหลวงเก่า หมู่บ้านชนเผ่าม้งที่นำซากลูกระเบิดมาทำเป็นรั้วบ้าน แต่หากมีเวลาพอห่างจากตัวเมืองโพนสวรรค์ไปไม่ไกล ยังมีที่เที่ยวชมอย่างถ้ำปิว สถานที่หลบภัยของชาวบ้านในสมัยสงครามเวียดนามและหมู่บ้านผ้าทออันขึ้นชื่อของเชียงขวาง

 แหล่งท่องเที่ยว

เมืองโพนสะหวัน
เมืองหลวงใหม่ของแขวงเชียงขวาง อยู่ห่างจากเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงไปเมื่อครั้งสงคราม ระยะทางห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร

เชียงขวาง
แหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเชียงขวางคือการไปชมทุ่งไหหิน ดินแดนอันเป็นปริศนาว่าสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่อใคร และไว้ทำอะไร แม้ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปให้กับดินแดนแห่งนี้ได้

สำหรับกลุ่มไหหินที่มีทางถนนเข้าไปถึงได้โดยสะดวกในเมืองโพนสะหวันแขวงเชียงขวาง ซึ่งทางรัฐบาลลาวได้ทำการกู้ระเบิดหมดแล้วมีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกันคือ

กลุ่มที่1
ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 15 นาที มีไหหินกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในทุ่งหญ้าประมาณ 334 ใบ และมีขนาดไหใหญ่มากกว่าในกลุ่มอื่นๆมาก

กลุ่มที่2 
ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 35 นาที กลุ่มที่2 ครอบคลุมพื้นที่เนินเขาสองลุก มีไหหินกระจัดกระจายอยู่ทุ่งหญ้าประมาณ 94 ใบ จากลานจอดรถเดินขึ้นมาตามบันไดปูนมาถึงเนินเขาจุดแรก และหากมองลงมาด้านล่างตรงบริเวณทางขึ้นจะมองเห็นหมู่บ้านนาโค ท่ามกลางทุ่งนาอันเขียวขจี

กลุ่มที่3
ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 35 กิโลเมตรใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที จากกลุ่มไหหินนาโคถัดลงมาราว 10 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านเชียงดีมาถึงลานจอดรถ หลังจากนั้นข้ามสะพานไม้ไผ่เดินมาตามคันนาประมาณ 300 เมตร ระหว่างทางจะผ่านผืนนาอันเขียวขจี ฝายกั้นน้ำ ตลอดจนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน มาถึงไหหินลาดค่าย ประกอบด้วยไหหินประมาณ 150 ใบกระจายอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ

เมืองคูน
ห่างจากเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 30 กิโลเมตร จะมาถึงเมืองคูน เมืองหลวงเก่าของเมืองเชียงขวางในปี พ.ศ. 2512 ช่วงสงครามอินโดจีน

วัดเพียวัด
ห่างจากตัวเมืองคูนมาทางทิศตะวันออกประมาณ 500 เมตร หากคุณเดินทางมาภายในตัวเมืองคูนจะเห็นวัดอยู่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ เรียกว่า วัดเพียวัด

พระธาตุฝุ่น
ห่างจากตัวเมืองคูนมาทางทิศตะวันออกประมาณ 400 เมตร เล่าสืบต่อกันมาว่าใจกลางพระธาตุเป็นที่เก็บฝุ่นจากการเผาอัฐิของพระพุทธเจ้าชาวลาวจึงเรียกพระธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุฝุ่น

บริษัทปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
ศูนย์ผลิตผ้าทอที่มีคุณภาพและใหญ่ที่สุดของแขวงเชียงขวาง เป็นแหล่งผลิตผ้าทอต่างๆ เช่น ผ้าตัดเสื้อ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าปูโต๊ะ มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์

ศูนย์หัตถกรรมนาวัง
จุดเด่นของศูนย์หัตถกรรมคือสินค้าทุกชิ้นทำมาจากไม้โลงเลง ไม้เนื้อหอมพิเศษที่มีเฉพาะในแขวงเชียงขวางและแขวงซำเหนือ

อนุสาวรีย์ลาว
ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันออกประมาณ 3.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขาเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับนักรบผู้เสียสละของลาวในสงครามเวียดนาม

หมู่บ้านชนเผ่าม้ง
นักท่องเที่ยวต่างชาติจากทวีปยุโรปนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมวีถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าม้งที่หมู่บ้านนี้ เพราะยังคงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีชนเผ่าเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

เมืองพูกรูด
นอกจากซากของลูกระเบิดที่ชาวบ้านนำมาดัดแปลงทำเป็นรั้วบ้าน กระถางปลูกต้นหอมของหมู่บ้านชนเผ่าม้งแล้ว หากมีเวลาพอควรแวะชมรถถังที่เมืองพูกรูด อยู่ถัดจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันตกประมาณ 25 กิโลเมตร

ถ้ำพระ
ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันตกประมาณ 45 กิโลเมตร จากตัวเมืองโพนสวรรค์มาประมาณ 42 กิโลเมตรก่อนถึงถ้ำพระจะผ่านหนองน้ำเรียกว่า หนองตั่ง หนองน้ำธรรมชาติสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร มีน้ำตลอดปี หลังจากนั้นนั่งรถต่อมาผ่านทวทัศน์ที่สวยงามของทุ่งบัวตอง ที่ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งรับลมหนาวมาราว 3 กิโลเมตรจะถึงบริเวณถ้ำพระ

หมู่บ้านเชียงงา
ถัดจากถ้ำพระมาทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากเที่ยวชมถ้ำพระแล้ว ก่อนกลับคุณจะบอกให้พนักงานในถ้ำพระพาไปหมู่บ้านเชียงงาก่อนได้ หมู่บ้านเชียงงาเป็นหมู๋บ้านขนาดเล็ก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวลาวลุ่ม ที่เหลือเป็นพวกขมุ ภายในหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของวัดเชียงงา

เมืองคำ
จากเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันออกประมาณ 52 กิโลเมตร จะถึงเมืองคำ หลังจากนั้นถนนจะแยกออกเป็น 2 เส้น เส้นซ้ายมือคือทางหลวงหมายเลข 6 ซึ่งตัดตรงเข้าไปในเขตหัวพัน เส้นขวามือยังคงเป็นทางหลวงหมายเลข 7 ซึ่งตัดผ่านบ้านหนองแรดไปสิ้นสุดลงที่พรหมแดนฝั่งเวียดนาม

หมู่บ้านผ้าทอ
ห่างจากตัวเมืองคำมาทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร นอกจากหมู่บ้านผ้าทอ ( บ้านชาง ) จะเป็นแหล่งผลิตผ้าไหม ผ้าทอ ที่ขึ้นชื่อของเชียงขวางแล้วภายในหมู่บ้านยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ถ้ำปิว
ห่างจากตัวเมืองคำมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ในอดีตถ้ำปิวเคยเป็นสถานที่หลบภัยของชาวบ้านในช่วงที่กองทัพอเมริกาเริ่มทิ้งระเบิดลงในพื้นที่แขวงเชียงขวาง







 หลวงพระบาง



หลวงพระบางเมืองอุดมด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของวัดวาอาราม บ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามรอยยิ้มที่แจ่มใสและเป็นมิตรของผู้คนวิถีชีวิตที่ดูเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้หลวงพระบางยังมีลมหายใจของเมืองมรดกโลกหลงเหลืออยู่ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในหลวงพระบาง อดีตราชธานีเก่าแก่คือการเที่ยวชมวัด แม้จะมีวัดต่างๆมากมายกว่า 40 วัด แต่หากคุณมีเวลาน้อยที่เที่ยวเด่นๆ จะอยู่ที่วัดเชียงทอง วัดภูษี วัดวิชุลราช วัดใหม่สุวรรณภูมาราม พระราชวังหลวง ถ้ำติ่ง แต่ใช่ว่าสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจจะมีเพียงวัดวาอาราม น้ำตกในหลวงพระบางก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน อาทิ น้ำตกกวางสี น้ำตกตาดแซะ ก่อนกลับหากมีเวลาเหลือแวะชมหมู่บ้านต่างๆรอบตัวเมือง เลือกซื้อของฝากในตลาดก็น่าสนใจเช่นกัน



 แหล่งท่องเที่ยว

วัดเชียงทอง
ทิศตะวันออกเฉีงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง มีถนนเล็กๆ ชื่อโพธิสารราช ริมน้ำโขงคั่นอยู่

ภูษี
หากมาเยือนหลวงพระบางแล้วหาสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองที่สวยงามสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดชมก็คือ ภูษี เพราะเมื่อคุณได้เดินขึ้นไปยังยอดภูษีจะสามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบ เห็นสายน้ำโขงสายน้ำคาน ที่ราบเล็กๆของเมืองท่ามกลางโอบล้อมของภูเขาอันสลับซับซ้อนตลอดจนอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงาม จนมีใครหลายคนกล่าวว่า " ไปเยี่ยมนครหลวงพระบางแล้ว ถ้าไม้ไดขึ้นภูษีถือว่ามาไม่ถึงหลวงพระบาง " 

พระธาตุจอมษี
นอกจากภูษีเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเมืองหลวงพระบางแล้วด้านบนยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุจอมษี พระธาตุองค์เล็กๆแต่โดดเด่นมาก แม้อยู่ในบริเวณใดของเมืองหลวงพระบาง จะเห็นประกายสีทองที่ต้องแดดสะท้อนไปทั่ว

พระราชวังหลวงพระบาง
" ปิดวันหยุดราชการและวันสำคัญทางศาสนา "
แม้ดูเหมือนว่าพระราชวังหลวงพระบางนี้ไม่ได้มีความใหญ๋โตรโหฐานเท่าใดนักแต่นับว่ามีคุณค่าทางความงดงามทั้งตัวอาคาร และบรรยากาศโดยรอบ ทิวทัศน์ก็สวยงาม ยามได้มองลงมาจากยอดภูษี เห็นอาณาเขตของพระราชวังเป็นสัดส่วนตั้งอยู่ริมน้ำโขง

วัดใหม่สุวรรณภูมาราม
ถัดจากพระราชวังหลวงมาทางตะวันตกคือวัดใหม่สุวรรณภูมารามหรือชาวหลวงพระบางเรียกสั้นๆว่า วัดใหม่ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวลาวว่า วัดใหม่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จสังฆราชบุญทัน นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบาง

วัดแสนสุขาราม
วัดแสนสร้างขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 15 ตามประวัติเล่าว่าชื่อวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้าง เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครเวียงจันทน์ 11 ปี 

วัดวิชุลราช
แม้ว่าหลวงพระบางจะเป็นเมืองแห่งวัดวาอาราม แต่วัดที่ดูแปลกประหลาดที่สุดคือวัดนี้ ด้วยพระธาตุเจดีย์รูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม โดดเด่นมองเห็นแต่ไกล

ถ้ำติ่ง
ถ้ำขนาดเล็กซึ่งอยู่ในภูเขาลูกใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมน้ำโขงฝั่งตรงข้ามกับบ้านปากอู

วัดปากอูราชวรวิหาร
หลังจากชมถ้ำติ่งแล้วนั่งเรือชิมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและแม่น้ำอูมาขึ้นฝั่งที่หมู่บ้านปากอูคุณสามารถแวะเที่ยวชมวัดปากอูได้

น้ำตกกวางสี
กวางสีเป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่สูงราว 70 เมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่รูปทรงแปลกตาลงสู่แอ่งน้ำเบื่องล่าง มีน้ำตลอดปี

น้ำตกตาดแซะ
น้ำตกตาดแซะเป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง ชั้นน้ำตกไม่สูงชันนัก สายน้ำไหลอาบมาตามลานหินกว้างลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างเสมือนสระว่ายน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ

น้ำตกตาดทอง
ตาดทองเป็นน้ำตกขนาดกลาง มีลำธารไหลลัดเลาะตามโขดหินผ่านน้ำตกชั้นที่ 2 ลงสู่น้ำตกชั้นที่ 1 เป็นชั้นที่มีความสวยงามมากที่สุด จากด้านล่างของน้ำตกมีทางเดินลัดเลาะลำธารไปเรื่อยๆ ผ่านร่มเงาของหมู๋แมกไม้สีเขียวขจีสองข้างทาง ระหว่างทางมีศาลาไม้ไผ่หลายแห่งไว้ให้นั่งพักผ่อน

วัดต่างๆในหลวงพระบาง
วัดปากคานคำมงคล,  วัดคีรี,  วัดศรีบุญเรือง , วัดศรีมงคล,  วัดสบสิขาราม,  วัดหนองศรีคูนเมือง,  วัดป่าไผ่วิไชยาราม,  วัดเชียงม่วนวชิรมังคลาราม,  วัดจุมค้องสุรินทาราม,  วัดหอเชียงวรวิหาร,  วัดโพนไชยชะสงคราม,  วัดมหาธาตุราชบวรวิหาร,  วัดศรีพุทธบาท,  วัดถ้ำภูษี,  วัดอาไพ,  วัดอารามอุตมธานี,  วัดหมื่นนาชมพูอาราม,  วัดธาตุหลวง,  วัดมโนรมย์,  วัดพระบาทใต้ ( วัดญวณ ),  วัดสังคโลก,  วัดป่าโพนเพา,  วัดเชียงแมน,  วัดล่องคูน,  วัดจอมเพชร  





 อุดมไชย

แขวงอุดมไชยตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแขวงบ่อแก้วและเมืองหลวงพระบาง ปากแบงซึ่งเป็นเมืองหลวงของแขวงอุดมไชยจึงเป็นจุดแวะพักที่สำคัญของทั้งคนและเรือ จากหลวงพระบางหากนั่งเรือทวนสายน้ำมาถึงปากแบงจะใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมง หากออกเดินทางตอนเช้า จะถึงท่าเรือปากแบงเวลาพลบค่ำพอดี ในทางกลับกันหากนั่งเรือตามสายน้ำมาจากห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามท่าเรือเชียงของ จังหวัดเชียงราย แม้จะใช้เวลาน้อยกว่า แต่นักท่องเที่ยวก็มักจะมาแวะพักค้างคืนที่ปากแบงเช่นกัน

จากนั้นสำหรับผู้ที่ต้องไปเดินทางไปหลวงพระบางจะสามารถเลือกได้ว่า จะเดินทางต่อไปด้วยเรือเร็ว ซึ่งเป็นเรือท้องแบนขนาดนั่งได้ 6 คน ต้องสวมเสื้อชูชีพและหมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั้วโมงครึ่งก็ถึง ในขณะที่เรือข้ามแม้จะนั่งสะดวกสบายกว่าแต่ใช้เวลาในการเดินทางถึง 10 ชั่วโมง

 แหล่งท่องเที่ยว

อุดมไชย
อุดมไชย ( เมืองไชย ) เป็นเมืองหลวงของแขวงอุดมไชย ตั้งอยู่ในวงล้อมของแขวงพงสาลี หลวงพระบาง ไชยบุรี บ่อแก้ว และหลวงน้ำทา สัยสงครามกู้ชาติและเปลี่ยนแปลงปกครอง เมื่อคุณเดินทางมายังตัวเมืองจะเห็นอนุสาวรีย์ท่านไกรสรชาวลาวส่วนใหญ่นิยมมานั่งพักผ่อนและใช้เป็นจุดนัดพบระหว่างเพื่อนฝูง

ปากแบง
เป็นเมืองเล็กแต่น่าอยู่ ตัวเมืองตั้งอยู่บนเนินเขา ณ จุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำแบงไหลมาบรรจบกัน นับเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญของแม่น้ำโขง อยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นทางเดินเรือหลวงน้ำทา ชาวบ้านส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บนเนินเขา มีวิถีชีวิตเรียบง่าย








 บ่อแก้ว

ในขณะที่นครเวียงจันทน์เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย เพราะจากจังหวัดหนองคาย สามารถข้ามสะพานมิตรภาพไปยังฝั่งลาวได้สะดวก ทำให้หนองคายเป็นจังหวัดท่องเที่ยวริมชายแดนของภาคอีสานที่ได้รับความนิยม เช่นเดียวกับทางภาคเหนือของไทย อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ก็สามารถเดินทางข้ามโขงไปยังแขวงบ่อแก้วได้ง่ายดายเช่นกัน

นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปแขวงบ่อแก้วแบบเช้าไปเย็นกลับ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเริ่มการเดินทางไปยังเมืองหลวงพระบาง ด้วยการล่องเรือตามลำน้ำโขงจากท่าเรือห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 วัน 1 คืน โดยจะแวะพักที่ปากแบงเพื่อเดินทางต่อไปในวันรุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี แขวงบ่อแก้วก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวชม ตั้งแต่วัดจอมแก้วมณีรัตน์ วัดเก่าแก่ของเมือง วัดพระธาตุตากผ้ากองที่ชาวบ้านเล่าว่าทุกๆวันขึ้น 15 ค่ำ จะมีแสงพวยพุ่งออกมาจากองค์พระธาตุ และอนุสรณ์สถานของท่านไกรสร พรหมวิหาร อดีตนายกรัฐมนตรีอันเป็นที่เคารพรักของชาวลาว ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวบ้านหลากเผ่า 

 แหล่งท่องเที่ยว

บ่อแก้ว
แขวงบ่อแก้ว เป็นแขวงที่มีขนาดเล็กที่สุดของลาว มีพรหมแดนติดกับไทยและพม่า ห่างจากชายแดนจีนเพียง 100 กิโลเมตร เดิมบริเวณนี้เรียกว่าหัวโขง เพราะตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโขง ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบ่อแก้วมีห้วยทรายเป็นเมืองหลวง เมืองท่าการค้าที่ใหญ่ที่สุดริมแม่น้ำโขง

วัดจอมแก้วมณีรัตน์
วัดเก่าแก่แห่งแรกที่คุณไม่ควรพลาดชมคือ วัดจอมแก้วมณีรัตน์ ตั้งอยู่บนเขาเหนือเมือง หันหน้าสู่แม่น้ำ ภายในบริเวณวัดมีพระอุโบสถขนาดกลางสร้างด้วยไม้สัก ศิลปะแบบไทยใหญ่ ฝาผนังโดยรอบของพระอุโบสถมีภาพเขียนสีน้ำมันลักษณะเป็นศิลปกรรมแบบลาวมีสีสันสวยงามและชัดเจนอยู่มาก

วัดพระธาตุตากผ้าทอง
ทางขึ้นของวัดพระธาตุตากผ้าทองอยู่ห่างจากท่าเรือเร็วของลาวประมาณ 100 เมตร ภายในบริเวณวัดมีพระอุโบสถขนาดกลาง เป็นศิลปกรรมแบบลาว

อนุสรณ์สถานของท่านไกรสร พรหมวิหาร
เป็นที่เคารพรักของชาวลาวเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างคุณประโยชน์ต่างๆ นานัปการให้กับบ้านเมืองและชาวลาวทั่วทั้งประเทศ

สนามบินบ่อแก้ว
เป็นสนามบินภายในประเทศ สร้างขึ้นในสมัยสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทในลาว รันเวย์สนามบินค่ินข้างเก่า มีหอบังคับการบินความสูงประมาณ 100 เมตร

ตลาดเมืองบ่อแก้ว
เป็นตลาดเช้า อยู่ทางทิศใต้ของตัวเมือง บริเวณนี้นับเป็นจุดตั้งต้นถนนสายหลักคือถนนเลียบชายฝั่งโขง สองฟากฝั่งมีร้านรวงตั้งอยู่เรียงรายทั้ง ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าทั่วไป และร้านขายของที่ระลึกจากชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ

หมู่บ้านน้ำว้าง
ถัดจากตัวเมืองห้วยทรายประมาณ 20 กิโลเมตร จะพบกับหมู่บ้านชาวเขาเผ่าแวนแตนหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาวห้วย เป็นชนชาติเก่าแก่ของลาว

หมู่บ้านข้าวปุ้น
เป็นหมู่บ้านชาวลาวที่ประกอบอาชีพทำขนมจีนกันทั้งหมู่บ้านส่งขายตามแขวงต่างๆในประะเทศลาว และบางส่วนส่งมาขายยังฝั่งอำเภอเชียงของของไทย

หมู่บ้านยองหิน
เป็นหมู่บ้านของชาวไทลื้อที่อาศัยอยู่ในประเทศลาว จุดเด่นน่าชมอยู่ตรงภูมิปัญญาของไทลื้อที่สร้างบ้านไม้ทั้งหลังแบบที่สามารถเคลื่อนย้ายบ้านได้โดยนำเสาบ้านแต่ละต้นมาวางบนหิน

หมู่บ้านต้มเหล้า
เป็นหมู่บ้านชาวลาวที่ประกอบอาชีพในการต้มเหล้า สาโท กระแช่ กินทั้งหมู่บ้านเพราะในประเทศลาวในประเทศลาวการต้มเหล้าไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย





 ไชยบุรี

ไชยบุรีหลังจากแม่น้ำโขงไหลผ่านแขวงบ่อแก้ว แขวงอุดมไชย มายังแขวงหลวงพระบาง จากหลวงพระบางสายน้ำโขงไหลต่อไปยังแขวงไชยบุรี แขวงที่อาจจะไม่โดดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวนัก ถ้าเทียบกับเมืองหลวงพระบาง และนครเวียงจันทน์แล้ว แต่ในอนาคตอาจได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว หากถนนที่เชื่อมต่อจังหวัดน่านเข้าสู่แขวงไชยบุรี ตัดผ่านไปยังหลวงพระบาง

ไชยบุรีเมืองป่าแห่งไม้อุดมและธรรมชาติอันงดงาม ตั้งอยู่บนภูเขาและที่ราบสูง มีเขตแดนติดกับไทยยาว 645 กิโลเมตร ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่เป็นพวก ไทดำ ไทลื้อ ขมุ ขฉิ่น กรี อาข่า และมลาบรี ทางตะวันออกติดกับฝั่งแม่น้ำโขง จะเห็นยอดเขาที่มองไกลๆเหมือนช้างกำลังเดิน จึงได้ชื่อว่า ผาช้าง ส่วนทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเป็นที่ตั้งของป่าสงวนแห่งชาติน้ำพูน ถัดมาทางตอนใต้ริมชายแดนมีน้ำตกให้เที่ยวชม เช่น น้ำตกนาข่า น้ำตก บ้านคำ น้ำตกตาดเหือง แต่ยังไม่มีถนนเข้าถึง ส่วนน้ำตกที่มีถนนเข้าถึงคือ น้ำตกตาดแจวสูงราว 30 เมตร การเดินทางสะดวก อยู่ใกล้ตัวเมือง ห่างจากท่าเดื่อประมาณ 1 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวพักผ่อน

ส่วนวัดที่น่าสนใจคือ วัดศรีบุญเรือง ภายในมีพระพุทธรูปศิลาประดิษฐานอยู่ คาดว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี และวัดศรีสว่างวงศ์ซึ่งเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์โปรดให้สร้างขึ้น








 หลวงน้ำทา

หลวงน้ำทาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแขวงบ่อแก้วถัดขึ้นไปคือแขวงหลวงน้ำทาทั้ง 2 แขวงนี้มีชายแดนติดกับพม่าเหมือนกันแต่หลวงน้ำทายังมีชายแดนที่ติดกับประเทศจีนอีกด้วย ภูมิประเทศแถบทั้งหมดเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาหลากหลายเผ่าทั้ง ม้ง ขมุ ไทเหนือ ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทยวน ไทลื้อ ละวิด ละเมด สีดา อีก้อ มูเซอ กะลอม ไทยใหญ่

หลวงน้ำทา นับเป็นแขวงที่เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่แสวงหาสิ่งใหม่ คุณอาจคุ้นเคยกับเมืองท่องเที่ยวอย่างหลวงพระบาง เวียงจันทน์ แต่หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ หลวงน้ำทายังมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวชม ทั้งวิถีชีวิตหลายชนเผ่า ร่องรอยจากสงครามกองทัพขบวนการประเทศลาวกับโจรม้ง ที่ไม่ควรพลาดคือการเยี่ยมชมเมืองสิงห์ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ จากนั้นเที่ยวมชมวัดหลวงบ้านเชียงใจ สถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาแบบไทลื้อแท้ๆ และเรือนพญาเซกอง มรดกของอาคารยุคอาณานิคม

 แหล่งท่องเที่ยว

หลวงน้ำทา
ปัจจุบันหลวงน้ำทามีถนนสายกว้างถ้าเดินมาทางเชิงสะพานด้านตะวันออกของถนนสายหลักในยามเช้าตรู่ จะเห็นผู้คนมากมายออกมาจับจ่ายของกันที่ตลาดเช้าซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีขนส่ง และถัดจากตัวเมืองมาราว 2 กิโลเมตรตามเส้นทางไปเมืองสิงห์ จะพบศูนย์หัตถกรรมหลวงน้ำทาศูนย์นี้สหภาพยุโรปเป็นผู้ออกเงินสร้างเพื่อให้มีที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมสำหรับชาวบ้าน

เมืองสิงห์
ตั้งอยู่บนที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยทิวเขา มีสายน้ำยวนและม่าคอยหล่อเลี้ยง อดีตเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญและเคยตกเป็นเมืองขึ้นของแคว้นทางตอนเหนือของไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส

งานบุญประจำปีของเมืองสิงห์
คืองานบุญพระธาตุเมืองสิงห์ ซึ่งจะจัดขึ้นในราวปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายนตามกำหนดวันในปฎิทินทางจันทรคติของแต่ละปี 






 พงสาลี

พงสาลีหากมองในแผนที่จะพบว่าเมืองพงสาลีเป็นดินแดนของลาวที่ติดกับพรหมแดนประเทศจีนและเวียดนาม ทำให้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีการเข้ามายึดครองจากหัวเมืองใหญ่ทั้งหลายในอดีต ปัจจุบันพงสาลีเป็นเมืองหลวงของแขวงมีประชากร 167,181 คน ตัวเมืองตั้งอยู่บนภูเขาสูงราว 1,400 เมตร ในเขตเขาภูฟ้า ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดปี และเนื่องจากตั้งอยู่ในชัยภูมิอันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ คืออยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างจีนกับเวียดนาม ฝรั่งเศสจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่แถบนี้มากถึงขนาดสั่งก่รให้ตั้งค่ายกองทหารรักษาการณ์ขึ้น ดังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสปรากฎให้เห็นอยู่ประปรายบ้างตามซอยต่างๆแม้จะถูกอาคารพาณิชย์ของจีนที่เน้นประโยชน์ใช้สอยบดบังอยู่ไปเสียส่วนใหญ่

 แหล่งท่องเที่ยว
           

พงสาลี
มาเยือนพงสาลีแม้จะไม่มีอะไรให้ชมมากนัก แต่เรื่องราวของวิถีชีวิตรับรองงได้ว่ามีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะตลาดเช้าที่มีสินค้าและของกินพื้นเมืองมากมายให้ได้ลิ้มลอง ผู้คนยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยว ภายในตัวเมืองส่วนใหญ่จะเป็นชาวพูน้อยและจีนเป็นหลัก ส่วนเผ่าอื่นๆจะอยู่ออกไปนอกเมือง

ยอดภูฟ้า
ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุภูฟ้า ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 40 นาที นับเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเมืองพงสาลีได้รอบ และหากคุณมาช่วงฤดูหนาวแล้ว จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมตัวเมืองพงสาลีไว้อย่างสวยงาม






  หัวพัน

หัวพันตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเชียงขวาง ประวัติศาสตร์ของสองแขวงนี้มีความคล้ายคลึงในหลายแง่ เช่น ในอดีตหัวพันเคยตกเป็นเมืองขึ้นของเวียดนามสลับกับการดำรงอยู่ในฐานะเอกราช และเพิ่งถูกรววมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของลาวสมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ปัจจุบันมีประชากรกราว 280,780 คน ภููมิประเทศเป็นขุนเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้อากาศค่อนข้างหนาว ประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยมากกว่า 20 เผ่า อาทิ ไทขาว ไทแดง ไทเหนือ ไทน้อย ม้ง ขมุ ยูนนาน ส่วนใหญ่ใช้ภาษาตระกูลภาษาไท

สิ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ เมืองเวียงชัย อดีตศูนย์บัญชาการใหญ่ของกลุ่มผู้นำขบวนการประเทศลาว หมู่บ้านชนพื้นเมืองหลากวัฒนธรรม และแหล่งผ้าทออันดับ 1 ของลาวอย่างซำเหนือ โดยเฉพาะที่มาจากเมืองซอนและสบหาวถือว่าคุณภาพดีที่สุด

 แหล่งท่องเที่ยว

ซำเหนือ
ตลาดที่นับว่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้มีสินค้าหลากชนิด ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ของจากจีน เวียดนามและไทย และสินค้าที่คุณเองไม่ควรพลาดคือผ้าทอมือ สินค้าขึ้นชื่อของลาวที่ส่งไปขายยังหลวงพระบางและเวียงจันทน์มีลวดลายประณีต สวยงาม สามารถหาซ้อได้ตามร้านค้าและแผงลอยในตลาดแต่หากมีเวลาจะบอกคนขับรถไฟให้พาไปแวะชมถึงแหล่งผลิตก็น่าสนใจเช่นกัน




แหล่งข้อมูล

วิกีพีเดีย

หนังสือคู่มือท่องเที่ยว Trips Magazine ( ลาวเหนือ )


สามารถติดต่อโปรแกรมทัวร์ได้ที่






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น